พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือ ทีเอ็มบี ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, วันที่ 19 มีนาคม 2563 - บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านแบงก์แอสชัวรันส์ กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (“ทีเอ็มบี”) เป็นระยะเวลาขั้นต้น 15 ปี โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการประกันชีวิตของพรูเด็นเชียล ทั้งในด้านสุขภาพรวมถึงการสร้างความมั่งคั่ง ให้แก่ลูกค้าของทีเอ็มบีที่มีฐานขนาดใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ข้อตกลงใหม่นี้ยังช่วยต่อยอดและขยายความร่วมมือระหว่างพรูเด็นเชียลกับพันธมิตรอย่างธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สู่ทีเอ็มบี ซึ่งภายหลังการรวมกิจการธนาคารทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน จะมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ด้านเงินฝาก และใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ในด้านจำนวนสาขา
ประเทศไทยเป็นตลาดประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง และตลาดกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน อันมีศักยภาพในการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง การร่วมมือเป็นพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ในครั้งนี้จึงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้พรูเด็นเชียลจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของตลาดกองทุนรวมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับทีเอ็มบีให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นพันธมิตรธุรกิจการร่วมค้าด้านการบริหารจัดการกองทุนรวม¹ โดยปัจจุบันกลุ่มพรูเด็นเชียลครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12² ในตลาดธุรกิจกองทุนรวมในประเทศไทย ทั้งนี้การเป็นพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกัน ส่งผลให้สององค์กรมีแพลตฟอร์มที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับแนวหน้า พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการด้านสุขภาพ และความมั่งคั่งแก่ลูกค้าทีเอ็มบีจำนวน 9 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของประเทศ³
การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทีเอ็มบีนี้จะช่วยสนับสนุนให้พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ขยายโอกาสทางธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของทีเอ็มบีในการร่วมเดินเคียงข้างลูกค้าทุกช่วงเวลาของชีวิต ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์กับบริการด้านการประกันชีวิต และการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลอีกด้วย
นายนิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านแบงก์แอสชัวรันส์ระยะยาวกับทีเอ็มบี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจกองทุนรวมของเราในประเทศไทย โดยการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นการนำเอาความเข้าใจและการเข้าถึงลูกค้าในประเทศไทยของทีเอ็มบี มาผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านประกันชีวิต สุขภาพ และการออมของพรูเด็นเชียล เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ดีที่สุด ซึ่งตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งเรื่องการให้ความคุ้มครองครอบครัว และการสะสมความมั่งคั่งผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่กำลังเติบโตและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรู้สึกยินดีที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการลงทุนในตลาดทุนไทยพร้อมไปกับการสร้างโอกาสในการจ้างงาน”
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทีเอ็มบีมุ่งหวังที่จะยกระดับธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกันกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในรูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้คือ การมีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของลูกค้า ด้วยการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงและยกระดับทางการเงินของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน”
ข้อตกลงการขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยในระหว่างนี้การขายประกันชีวิตผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์กับธนาคารธนชาตยังคงดำเนินต่อไป โดยข้อตกลงนี้ต้องผ่านการปรับปรุงแก้ไขสัญญาใหม่ ตามข้อตกลงความร่วมมือการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคารทีเอ็มบีที่มีอยู่เดิมกับกลุ่มประกันชีวิตอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการจัดการดำเนินการในครั้งนี้มีมูลค่าทั้งสิ้น 24.5 พันล้านบาท (หรือประมาณ 754 ล้านเหรียญสหรัฐ คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 18 มีนาคม 2563) โดยแบ่งชำระเป็นสองงวด งวดแรกชำระในเดือนเมษายน 2563 เป็นจำนวน 12 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือชำระในวันที่ 1 มกราคม 2564 สำหรับเงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกรรมนี้มาจากแหล่งเงินทุนที่มีอยู่เดิมของพรูเด็นเชียล เอเชีย รวมกับแหล่งเงินทุนของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะรวมไปถึงสินเชื่อจากแหล่งเงินทุนใหม่ด้วย และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัทฯ จำนวนเงินที่กล่าวถึงข้างต้นจะได้รับการบันทึกเป็นสินทรัพย์ประเภทจับต้องไม่ได้ในส่วนของสิทธิการจัดจำหน่าย
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล
กลุ่มพรูเด็นเชียลเป็นกลุ่มบริษัทที่มุ่งดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียโดยมุ่งเน้นไปยังตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยปณิธานหลักคือการช่วยผู้คนลดความเสี่ยงในชีวิต เพื่อให้สามารถจัดการกับความกังวลทางด้านการเงินผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตเพื่อการเกษียณอายุ รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการบริการสินทรัพย์ ซึ่งกลุ่มพรูเด็นเชียลมีความภาคภูมิใจที่ได้ดูแลลูกค้ากว่า 20 ล้านรายทั่วโลก และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลมิได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กับพรูเด็นเชียล ไฟแนนเชียล อิงค์ (Prudential Financial Inc) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีถิ่นที่ตั้งทางธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงบริษัท พรูเด็นเชียล แอสชัวรันส์ (Prudential Assurance Company) บริษัทที่มีถิ่นที่ตั้งทางธุรกิจในสหราชอาณาจักร
เกี่ยวกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย
พรูเด็นเชียลได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 24 ปี ภายใต้ชื่อ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้บริการแก่ลูกค้าในไทยมากกว่า 1.6 ล้านราย และบริหารสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้ามูลค่ากว่า 112 พันล้านบาท⁴ ในปี 2562 พรูเด็นเชียล ประเทศไทย มีผลกำไรจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี IFRS เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 มีมูลค่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเบี้ยประกันภัยรับแบบถ่วงน้ำหนัก เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 มีมูลค่า 619 ล้านเหรียญสหรัฐ⁵
เกี่ยวกับทีเอ็มบี/ธนาคารธนชาต
ทีเอ็มบีเป็นธนาคารผู้นำตลาดด้านเงินฝาก และธนาคารดิจิทัล ในขณะที่ธนาคาธนชาตเป็นผู้นำตลาดด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในตลาด โดยภายหลังการควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต ทีเอ็มบีจะมีขนาดเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัวมีสินทรัพย์รวม 1.9 ล้านล้านบาท และปัจจุบันมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของประเทศ ซึ่งทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตมีเครือข่ายสาขารวมกันกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ พร้อมด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 9 ล้านราย
ที่มาของข้อมูล: สมาคมบริษัทจัดการลงทุน, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, สวิส รี (Swiss Re), สหประชาชาติ
¹ ในเดือนธันวาคม 2562 อีสท์สปริง อินเวสท์เมนส์ เข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 1 ในบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาต (โดยธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของทีเอ็มบี ถือหุ้นในส่วนที่เหลือร้อยละ 49.9) ในเดือนกันยายน 2561 อีสท์สปริง เข้าถือหุ้นจำนวนร้อยละ 65 ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด (ปัจจุบันใช้ชื่อ TMBAM Eastspring)
² ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ จำนวน 667 พันล้านบาท (21 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
³ จำนวนประชากรไทยที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยประมาณ ณ ปี 2563
⁴ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
⁵ เบี้ยประกันภัยรับแบบถ่วงน้ำหนัก ได้แก่ เบี้ยประกันภัยรับธุรกิจใหม่ และปีต่ออายุ รวม 10% ของเบี้ยประกันภัยรับครั้งเดียว