ครอบครัวกงสี ตอบโจทย์ชีวิตและเศรษฐกิจในยุคนี้จริงรึเปล่า?

ทุกวันนี้คนทำงานรุ่นใหม่อยากได้ชีวิตที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ช่องว่างระหว่างวัยก็สูงขึ้น แถม work-life-balance ของคนรุ่นใหม่ก็แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ฯลฯ ครอบครัวบ้านกงสี (extended family) อาจเป็นรูปแบบครอบครัวที่หายากและแตกต่างจากครัวเรือนส่วนมากในปัจจุบัน

แบบนี้แปลว่าครอบครัวแบบนี้อาจไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันหรือเปล่านะ?

ครอบครัวกงสีคืออะไร? กงสีคือครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนจากหลายรุ่นอยู่ร่วมกัน ถึงแม้ว่าสมาชิกบางคนจะมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง ครอบครัวเองก็มักมีธุรกิจส่วนตัวที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ถ้าเปรียบเทียบครอบครัวเป็นสิ่งปลูกสร้าง กงสีน่าจะใกล้เคียงกับตึกระฟ้า ที่สมาชิกในครอบครัวค่อย ๆ ส่งต่อการก่อสร้างชั้นต่อไปให้แก่รุ่นถัดไปสานต่อ แปลว่าการอยู่ในครอบครัวรูปแบบนี้มีจุดแข็งตรงที่ไม่มีอะไรที่ต้องเริ่มจากศูนย์ ตั้งแต่ในโครงสร้างครอบครัว ไปจนถึงวิธีการหารายรับหลักของบ้าน เพราะโครงสร้างและกรอบที่วางไว้ก่อนหน้า ถูกคิดเผื่อให้สมาชิกรุ่นถัด ๆ ไปนำมาใช้ในการสร้างอะไรใหม่ๆ ให้งอกงามออกไปจากฐานนั้น

แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจมีคำถามว่า ถ้าธุรกิจที่ที่บ้านทำไม่ยั่งยืนในโลกปัจจุบันอีกต่อไปแล้ว จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือเปล่า? หรือว่าถ้าคนที่ถูกวางเอาไว้ให้สืบทอดกิจการไม่เหมาะสมกับงานแบบที่ที่บ้านต้องการให้ทำ เราจะเปลี่ยนคนได้ไหม? นี่ยังไม่ได้พูดถึงการต้องผูกความสัมพันธ์ส่วนตัวไว้กับการงานและการเงิน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่อาจไม่ตรงกับคุณค่าในการใช้ชีวิตที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากให้ความสำคัญ

จุดด้อยของกงสี ก็สามารถมาจากโครงสร้างอันแข็งแรงที่ว่านั้นได้เหมือนกันนะ เพราะแม้ว่าจะเกิดจากความหวังดีแก่ลูกหลาน ความแข็งแรงของโครงสร้างดังกล่าวอาจทำให้เกิดกรอบที่ไม่ยืดหยุ่นพอ และคนจาก Gen Y และ Gen Z อาจต้องการช่องว่างในการหายใจมากกว่าที่กงสีให้ได้

อย่างนั้นก็แปลว่า สิ่งที่อาจช่วยให้กงสีอยู่กันอย่างเหนียวแน่นขึ้นได้ คือการเปิดใจต่อกันและกันของคนต่างรุ่น เข้าใจธรรมชาติของแต่ละรุ่น ยอมรับในความต่างระหว่างกัน และลองเอาใจเขาใส่ใจเรา ให้รู้ถึงความหวังดีและวิธีของคนรุ่นก่อนที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้ พร้อมทั้งเปิดรับความคิดเห็นกับการปรับเปลี่ยนที่คนรุ่นใหม่เสนอ และสุดท้าย ถนอมรักษาใจของกันและกันให้มากที่สุด

แต่นอกจากการรักษาสุขภาพใจแล้ว อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ การดูแลสุขภาพกายของคนในครอบครัว สิ่งที่ตีคู่มากับกงสี คือ สมาชิกในสมาชิกในครอบครัวที่ต่างวัยกัน ทั้งเด็กเล็ก วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนวัยชรา การรักษาสุขภาพของคนในบ้านก็เป็นหนึ่งความท้าทายเมื่อพูดถึงครอบครัวประเภทนี้ เพราะแต่ละคนมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วงวัย และปัจจัยอีกมากมายที่อาจอยู่ภายใต้หรือนอกเหนือความควบคุมของเรา

สิ่งหนึ่งที่อยู่ในความควบคุมของสมาชิกในบ้านแน่ ๆ คือ การวางแผนล่วงหน้าในการป้องกันและรักษาสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ หากไม่อยากกังวลเรื่องรายได้ในวันที่เจ็บป่วยนอนพักรักษาตัว The 1 Hospital Care ก็เป็น 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นประกันที่ชดเชยรายได้สูงสุดถึงวันละ 2,000 บาท* เมื่อต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยมากหรือน้อย

หรือ หากต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้น พรูโรคร้าย ซูเปอร์คุ้ม ที่ครอบคลุม 63 โรคร้ายแรง อย่างเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ การผ่าตัดลิ้นหัวใจ โรคไวรัสตับอักเสบ พาร์กินสัน ภาวะโคม่า การสูญเสียการได้ยินหรือความสามารถในการพูด แผลไหม้ฉกรรจ์ ฯลฯ นอกจากจะเป็นแผนที่ครอบคลุมโรคมากมายแล้ว ยัง ตอบโจทย์ความหลากหลายในช่วงวัยของบ้านกงสีอย่างมาก

เมื่อบ้านมีความแตกต่างสูงทั้งในช่วงวัยและไลฟ์สไตล์ ความแตกต่างนั้นอาจทำให้เรารู้สึกว่าเราห่างกัน แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่สมาชิกภายในกงสีสามารถมีให้กันเสมอ คือ การสนับสนุน ความหวังดี ความเป็นห่วง และความรักที่ต้องค่อย ๆ ก่อกันขึ้นมาระหว่างรุ่น เพียงแต่ต้องอาศัยการคุยกันอย่างเปิดใจ เพื่อสร้างความเข้าใจกัน และการประนีประนอมระหว่างกันของคนในครอบครัว

เพื่อที่จะคงไว้ซึ่งความแข็งแรงของรากฐานที่กงสีจะสร้างและส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลัง หรือการบำรุงรักษาฐานที่คนรุ่นก่อนสร้างเอาไว้ให้ สิ่งแรกที่ต้องมี คือ ความแข็งแรงทั้งร่างกายและภายในหัวใจ เพราะความมั่นคงของทั้งสองอย่างส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงภายในครอบครัว

และพรูเด็นเชียลขอเป็นอีกแรงที่พร้อมสนับสนุนในทุกก้าวที่เดินไปสู่ความเข้าใจของทุกคนในครอบครัว

#MadeForEveryFamily #ดูแลความสุขให้ทุกความต่าง

หมายเหตุ : ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

*ขึ้นกับแผนประกันภัยที่ลูกค้าเลือก