เลือกภาษา
close
ครอบครัวบุญธรรม
บทความและข้อมูลด้านสุขภาพโดย Pulse

ครอบครัวบุญธรรม : ต่างกันที่จุดเริ่มต้น แต่ความห่วงใยไม่เคยต่าง

 

ลูกบุญธรรมไม่ใช่เด็กน่าสงสาร และพ่อแม่บุญธรรมก็ไม่ได้เป็นรองใคร ทุกวันนี้เราคงเรียกได้ว่าหมดยุคการอคติกับครอบครัวบุญธรรม (adoptive family) กันแล้ว เพราะครอบครัวแบบนี้ก็เป็นเพียงอีกทางเลือกหนึ่งในเส้นทางชีวิตเท่านั้น  

ถ้าจะมีอะไรที่ครอบครัวบุญธรรมแตกต่างจากครอบครัวแบบอื่น ก็คงจะเป็นเรื่องของการเตรียมเอกสารและคุณสมบัติที่พ่อแม่บุญธรรมต้องมีในการรับเลี้ยงเด็กสักคน เช่น จะเป็นผู้รับอุปการะต้องมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป ต้องมีอายุมากกว่าเด็กที่รับอย่างน้อย 15 ปี และต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองของเด็ก และหากเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไปต้องยินยอมด้วยตัวเอง  

ในส่วนของเอกสารที่ผู้รับฯ ต้องเตรียมจะมี รูปถ่าย บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่า หนังสือแสดงการเปลี่ยนชื่อ(ถ้ามี) ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าเป็นผู้มีร่างกายและจิตใจปกติ ภาพสถานที่อยู่อาศัย เอกสารรับรองรายได้และการทำงาน หนังสือยินยอมจากคู่สมรส ใบมรณบัตรในกรณีที่คู่สมรสเสียชีวิต คำสั่งศาลแทนการแสดงเจตนาแทนคู่สมรสในกรณีที่คู่สมรสไม่อาจให้ความยินยอม และผลตรวจประวัติอาชญากรรม นอกจากคุณสมบัติและเอกสาร ก็มีเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่ต่างจากครอบครัวแบบอื่นเลย  

พอลองมาคิดดูแล้ว รู้สึกเหมือนกันไหมว่า แม้จะมีความแตกต่างในเส้นทางชีวิต แต่สิ่งที่ผู้รับลูกบุญธรรมควรมีไม่ต่างจากครอบครัวอื่น ๆ เลย คือ ความทุ่มเทต่อลูก ทั้งด้านการเงินและความใส่ใจ และโดยเฉพาะความใส่ใจนั้น ครอบครัวบุญธรรมก็มีความซับซ้อนเพิ่มไปอีกระดับจากครอบครัวอื่น ๆ เช่น การตัดสินใจว่าจะบอกลูกว่าเขาเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งควรทำตั้งแต่เขาอายุ 3-4 ปี และการสร้างความมั่นใจว่าความรักที่มีให้เขานั้นไม่แตกต่างไปจากครอบครัวอื่น ๆ เลย   

จะเห็นได้ว่า การเป็นพ่อแม่บุญธรรมก็มีภาระและความเหนื่อยหนักไม่ต่างจากครอบครัวรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้น ความพร้อมอีกอย่างที่จำเป็นมาก ๆ ก็คือการดูแลรักษาสุขภาพ ผู้ปกครองต้องดูแลลูกอย่างใกล้ชิด แต่ด้วยค่าใช้จ่ายมากมายในเศรษฐกิจปัจจุบันอาจทำให้ต้องทำงานไปพร้อม ๆ กับเลี้ยงลูก ทำให้มีเวลาให้ตัวเองน้อยกว่าที่เคย ทั้งอาหารการกิน ความเครียดเรื่องงาน เรื่องครอบครัว ฯลฯ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือโรคร้ายต่าง ๆ ได้ หากเป็นเช่นนั้น ภาวะทางการเงินของครอบครัวก็อาจสั่นคลอนได้ เพราะไหนจะค่ารักษาพยาบาล และการพักฟื้นหลังการรักษาอีก 

แต่ความกังวลเหล่านี้จัดการได้ หากคุณมีการวางแผนเพื่อสุขภาพ แม้เจอโรคร้ายอย่างไม่คาดฝัน พรูโรคร้ายซูเปอร์คุ้ม เป็น 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะครอบคลุมถึง 63 โรคร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจ ไวรัสตับอักเสบ ภาวะโคม่า การสูญเสียการได้ยินหรือความสามารถในการพูด แผลไหม้ฉกรรจ์ ฯลฯ นอกจากจะครอบคลุมโรคมากมายแล้ว ยังครอบคลุมกลุ่มอายุตั้งแต่ 1 เดือน - 65 ปี และยังต่ออายุได้ถึงอายุ 98 ปี คุ้มครองต่อจนถึงอายุ 99 ปี  

หรือ The 1 Fight Cancer ประกันคุ้มครองมะเร็งทุกระยะ รับเงินก้อนทันทีเมื่อถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง* พร้อมทั้งรับผลประโยชน์คุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี 50,000 บาท แถมยังได้รับคะแนน The 1 สำหรับการชำระเบี้ยประกันปีแรก (ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน)

ครอบครัวทุกรูปแบบมีอุปสรรคต่างกันออกไป ครอบครัวบุญธรรมก็เช่นกัน แต่ด้วยความรัก ความเข้าใจที่มีให้กัน รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่อย่างมีแบบแผน ครอบครัวบุญธรรมนั้นก็อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักและความมั่นคงได้ไม่ต่างจากครอบครัวรูปแบบอื่น ๆ แน่นอน  

และพรูเด็นเชียลประกันชีวิต ขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลทุกครอบครัวให้แข็งแรงและมีความสุขได้อย่างเต็มที่ มีอิสระได้แบบที่ต้องการ 

 

#MadeForEveryFamily #ดูแลความสุขให้ทุกความต่าง 

 

หมายเหตุ: ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง 

* เงื่อนไขกรมธรรม์เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด 

รับประกันชีวิตโดยบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 

พรูเด็นเชียล พร้อมสนับสนุน
และดูแลความสุขให้ทุกครอบครัว