วิ่งช้า Vs วิ่งเร็ว...วิ่งแบบไหนเผาผลาญไขมันเยอะสุด
นักวิ่งมือใหม่หลายคนเข้าใจว่าอยากเบิร์นเยอะๆ ต้องวิ่งให้เร็ว เอาให้เหงื่อท่วม แต่รู้ไหมว่า การวิ่งในแต่ละโซนจะดึงพลังงานมาใช้ในรูปแบบที่ต่างกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถึงจะเผาผลาญพลังงานเยอะกว่า ก็ไม่ได้แปลว่า..เผาผลาญไขมันได้เยอะสุด!
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อดูค่าเฉลี่ยการเผาผลาญ ยิ่งวิ่งเร็ว...เท่ากับยิ่งได้เบิร์น แต่! รู้หรือไม่ว่า สิ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นพลังงานนั้น กลับไม่ได้มาจากไขมันทั้งหมด และที่น่าเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า คือ พลังงานที่นำมาใช้ในการออกกำลังกายโซนที่ 1 กว่า 95% มาจากไขมันภายในร่างกาย ในขณะที่โซน 3 ไขมันจะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานเพียง 50% เท่านั้น
ทำไมพลังงานที่ถูกนำมาใช้ ถึงไม่ใช่จากไขมันทั้งหมด มาดูกัน!
ในระยะแรกของการออกกำลังกาย พลังงานที่ใช้จะมาจากสาร 2 ชนิด คือ ATP และ CP จากระบบพลังงาน Phosphagen เนื่องจากมีการเก็บสะสมไว้ในกล้ามเนื้ออยู่แล้ว จึงสามารถดึงมาใช้ได้ในทันที แต่จะมีปริมาณที่น้อยมากๆ ทำให้พลังงานส่วนนี้ถูกดึงมาใช้และลดลงอย่างรวดเร็ว จะสังเกตได้ว่า เวลาวิ่งเร็วมากๆ หรือยกน้ำหนัก เรามักจะออกแรงติดต่อกันได้ไม่นานนัก
เมื่อการออกกำลังกายยังคงดำเนินต่อ ร่างกายจะต้องการใช้พลังงานมากขึ้นในเวลาอันสั้น แต่ไม่สามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้ทัน จึงต้องหันมาใช้คาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายเก็บสะสมไว้ในรูปแบบไกลโคเจน (Glycogen) ที่อยู่ในกล้ามเนื้อและตับแทน
และหากการออกกำลังกายยังคงดำเนินต่อไปอีก...กล้ามเนื้อจะใช้ระบบพลังงาน Oxidative System หรือการใช้ ATP ที่เกิดจากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน กับออกซิเจน ซึ่งระบบนี้จะสามารถสร้าง ATP ขึ้นมาได้อย่างไม่จำกัด ถ้าเรายังคงออกกำลังกายต่อไป จนคาร์โบไฮเดรตลดลง ร่างกายก็จะใช้ไขมันเป็นแหล่งของพลังงานมากขึ้น เพราะไขมันเป็นแหล่งที่ให้พลังงานได้มากที่สุด และมีสะสมไว้มากที่สุด จึงถูกดึงมาใช้เป็นแหล่งพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง
จากลักษณะการเผาผลาญพลังงานในขณะออกกำลังกาย จะเห็นว่า...กว่าที่ไขมันจะถูกนำมาใช้เป็นพลังงานนั้น มีความซับซ้อนและใช้เวลานาน รวมทั้งต้องมีการใช้ออกซิเจนช่วยในการเผาผลาญ ดังนั้น ถ้าอยากลดไขมันให้ได้เยอะๆ ควรเลือกกิจกรรมที่มีความหนักต่ำ หรืออยู่ในโซน 1-2 เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น จนถึงระยะที่ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน แต่การออกกำลังหนักมาก ร่างกายจะเลือกใช้คาร์โบไฮเดรตมาเป็นแหล่งพลังงานมากกว่านั่นเอง