
เช็กลิสต์ 5 อาหารร้ายเสี่ยงโรคมะเร็ง ลดปริมาณการกินด่วน!
รู้หรือไม่ว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเฉลี่ยวันละ 15 คน และมีผู้ป่วยใหม่วันละประมาณ 44 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย โดยผู้ชายพบมากเป็นอันดับ 3 และผู้หญิงพบมากเป็นอันดับ 2
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงคือ พฤติกรรมการกินอาหารที่มีการสะสมมานานนับสิบปี และจะเริ่มแสดงอาการของโรคในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป แพทย์จึงแนะนำให้มาตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง เพื่อวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ก่อนที่จะสายเกินไป เราควรมาปรับพฤติกรรมการกินเสียใหม่ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยลดการกินอาหารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะมีอะไรบ้างที่เป็นตัวการหลัก ไปดูกันเลย
1. เนื้อแดงและเนื้อสัตว์ที่มีการแปรรูป
เนื้อหมูและเนื้อวัวที่มีชั้นไขมันจำนวนมาก เมื่อนำมาปิ้งบนเตาเป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง (Carcinogens) เมื่อกินบ่อยเข้า ก็อาจเกิดการสะสมและกลายเป็นโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ เนื้อสัตว์แปรรูปก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ก่อมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นแฮม ไส้กรอก เบคอน แหนม รวมถึงอาหารที่บรรจุในกระป๋อง เพราะอาหารเหล่านี้มักจะใส่ไนเดรตและไนไตรต์ลงไปในอาหาร เพื่อให้เก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มสีสันให้สวยงาม
อีกทั้งในอาหารแปรรูปยังมีการปรุงแต่งรสอย่างน้ำตาลและโซเดียมในปริมาณมาก ทำให้มีแคลอรีสูง แต่คุณค่าทางอาหารต่ำ ทำให้เสี่ยงทั้งโรคอ้วนและโรคมะเร็ง
ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรกินอาหารจำพวกเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ที่มีการแปรรูปแต่น้อย คือ สามารถกินได้ แต่นาน ๆ กินที แล้วเน้นโปรตีนคุณภาพอย่างปลา อาหารจำพวก Plant-based Diet และอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ๆ จะดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง
2. ของทอด
ของทอดเป็นหนึ่งในอาหารสวรรค์ของเด็กอ้วน ยิ่งขึ้นจากเตาใหม่ ๆ ยิ่งทำให้รสสัมผัสอร่อย กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด กล้วยทอด โดนัท แต่หากมีการใช้น้ำมันในการทอดเกิน 2 ครั้งขึ้นไป จะมีการแตกตัวของน้ำมันที่เสื่อมสภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากของทอดแล้ว อาหารที่อบด้วยความร้อนสูง อย่างขนมปังกรอบ บิสกิต และคุกกี้ ก็เสี่ยงด้วยเช่นเดียวกัน หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง
สำหรับใครที่เป็นของทอดเลิฟเวอร์ กินบ่อย ๆ หรือกินทุกวัน แนะนำให้ลดปริมาณและความบ่อยในการกินลงมา หรือทางที่ดีให้ทำอาหารเอง และไม่ควรใช้น้ำมันในการทอดซ้ำ หรือเปลี่ยนเป็นใช้หม้อทอดไร้น้ำมันแทน เพื่อลดการเกิดสารก่อมะเร็งในอาหารนั่นเอง
3. อาหารที่ปรุงรสมากเกินไป
เอกลักษณ์และเสน่ห์อย่างหนึ่งของอาหารไทยคือ รสชาติที่จัดจ้าน เปิดต่อมรับรส ทำให้เวลากินรู้สึกฟินและมีความสุข แต่อาหารที่ปรุงแต่งรสมากเกินไปอย่างยำ ส้มตำ ต้มยำ ต้มแซ่บ รวมถึงก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงรสจัด รวมถึงอาหารที่ปรุงไม่สุก อย่างกุ้งแช่น้ำปลา รวมไปถึงอาหารหมักดองอย่างปูเค็ม ปลาร้า ที่ใช้เกลือในปริมาณมาก
แน่นอนว่าการกินอาหารที่ไม่ปรุงรส หรือ Raw Food น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หากว่ายังไม่สามารถทำได้ในทันที แนะนำให้ลดปริมาณเครื่องปรุง รวมถึงความถี่ในการกินอาหารเหล่านี้ลงไป เพราะอาหารที่ปรุงรสจัด นอกจากจะเป็นอาหารที่ทำให้เสี่ยงโรคมะเร็งแล้ว ยังทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจตามมาอีกด้วย
4. แป้งและน้ำตาล ขนมหวาน แป้งขัดสีต่าง ๆ
ใครที่เป็นชานมเลิฟเวอร์แบบหวานร้อยหรือหวานเกินร้อย แนะนำให้พักบ้าง เพราะการบริโภคน้ำตาลและสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมาก ๆ อาจจะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะชานมไข่มุกที่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล และไขมันจากนม
นอกจากเครื่องดื่มที่หวานจัดอย่างชานมไข่มุก น้ำอัดลม กาแฟนม และเครื่องดื่มอื่น ๆ แล้ว ขนมหวานไม่ว่าจะเป็นเค้ก คุกกี้ หรือขนมไทย ๆ อย่างทองหยิบ ทองหยอด ลอดช่องน้ำกะทิ บัวลอยไข่หวาน ก็ต่างอุดมไปด้วยแป้งและน้ำตาลทั้งนั้น นี่ยังไม่รวมถึงแป้งขัดขาว อย่างข้าวขาว ขนมปัง พาสตา ซีเรียล ที่หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
ดังนั้น หากว่าเราไม่อยากจะมีชีวิตบั้นปลายที่ต้องพบเจอกับโรคมะเร็งลำไส้ แนะนำให้ลดปริมาณแป้ง น้ำตาล และของหวานต่าง ๆ ลง หรือนาน ๆ กินทีจะดีกว่า
5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
รู้หรือไม่ เวลาที่เราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ โซจู หรือเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ตับจะย่อยแอลกอฮอล์เป็นสารก่อมะเร็ง สร้างความเสียหายให้แก่ DNA และเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ทั้งยังจะไปกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งอีกด้วย
นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังกระตุ้นการเกิดฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิง ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจึงเสี่ยงต่อมะเร็งหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งเต้านม
"มะเร็ง" เป็นแล้วทรมานแถมยังมีค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาล เราจึงควรลดการกินอาหารเสี่ยงโรคมะเร็ง และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ การทำประกันโรคร้ายแรงเอาไว้ ยังจะช่วยสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิต เพราะจะเป็นเสมือนตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล อย่างพรูโรคร้าย ซูเปอร์คุ้ม จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิตที่คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ ตั้งแต่ระยะต้นไปจนถึงระยะลุกลาม* ตอบโจทย์ความต้องการ หากไม่แน่ใจว่า รีบไปตรวจเลย หมดห่วงเรื่องของค่าใช้จ่ายแน่นอน
* ความคุ้มครองขึ้นกับแผนประกันที่เลือก
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง