
ประกันสุขภาพเด็ก สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม
วัยเด็กเป็นวัยที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยสูง เพราะระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความซุกซนที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ แล้วอะไรที่เป็นกุญแจสำคัญที่จะมาช่วยคุณพ่อคุณแม่รองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหากลูกน้อยต้องเข้าโรงพยาบาล การทำประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญที่ต้องทำให้ลูกจริงหรือไม่? ตามไปหาคำตอบได้ในบทความนี้
ประกันสุขภาพเด็กสำคัญอย่างไร?
วัยเด็กเจ็บป่วยง่ายกว่าผู้ใหญ่
วัยเด็กเป็นวัยที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายบอบบาง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยที่เริ่มไปโรงเรียน ต้องอยู่ใกล้ชิดและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กอื่น ๆ หากมีเด็กคนหนึ่งป่วยก็มักจะติดต่อกันอย่างง่ายดาย จนถึงขั้นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อย ๆ การมีประกันสุขภาพเด็กตั้งแต่แรกเกิดจึงเป็นการวางแผนป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่ดีของครอบครัว รวมไปถึงความสบายใจของคุณพ่อและคุณแม่ได้
แบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลที่สูงลิ่ว
เด็กเล็กมีโอกาสเจ็บป่วยสูง และใช้เวลานานกว่าผู้ใหญ่กว่าร่างกายจะฟื้นฟู โดยเฉพาะหากน้อง ๆ ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในเพื่อดูอาการ ค่าใช้จ่ายอาจพุ่งสูงลิ่วแบบที่คุณพ่อคุณแม่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว แต่หากมีประกันเด็กจะช่วยแบ่งเบาความกังวลและภาระค่ารักษาพยาบาลได้เป็นอย่างมาก
คุ้มครองโรคได้หลากหลาย
โรคยอดฮิตในวัยเด็กมีมากมาย เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก ประกันสุขภาพเด็กจึงเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ เพราะหากทำประกันสุขภาพเด็กให้ลูกน้อยตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถคุ้มครองลูกน้อยได้หลากหลายโรค
วิธีเลือกแผนประกันสุขภาพเด็ก
ประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่ที่อยากมองหาประกันสุขภาพเด็กดี ๆ ให้กับลูกน้อยคงเกิดความสงสัยว่าต้องพิจารณาอะไรบ้าง? เลือกแผนประกันอย่างไรให้คุ้มค่า? เรามีวิธี การเลือกประกันสุขภาพเด็กมาฝากกัน
ศึกษาแผนการคุ้มครอง
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญอย่างละเอียด คือ แผนการคุ้มครองของประกันว่ามีความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนไหนบ้าง วงเงินที่ให้ความคุ้มครองเป็นแบบจ่ายต่อครั้งหรือเหมาจ่าย (แบบเหมาจ่ายจะถูกกว่าเมื่อเทียบกับแบบจำกัดวงเงิน) คุ้มครองตั้งแต่อายุเท่าใดถึงเท่าใด รวมทั้งมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นอะไรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปประกันสุขภาพเด็กจะให้ความคุ้มครองเบื้องต้น 3 อย่าง ได้แก่ ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และอื่น ๆ
ค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่า
สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือ การพิจารณาค่าเบี้ยประกัน หรือเงินที่เราต้องจ่ายเพื่อรับความคุ้มครอง อาจเริ่มสำรวจตนเองว่ามีงบประมาณเท่าใด สามารถชำระได้มากน้อยเพียงใด สะดวกชำระแบบรายเดือนหรือรายปี โดยเบี้ยประกันควรเหมาะสมกับรายได้ของคุณพ่อคุณแม่ ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันในวงเงินที่สูงเกินความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเงินของตนเองจนเกินไป
ความคุ้มครองเพิ่มเติมที่จะได้รับ
นอกเหนือจากแผนการคุ้มครองหลักแล้ว แนะนำให้พิจารณาความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าดูแลรักษาด้านทันตกรรม ค่าตรวจสุขภาพ เป็นต้น
โรงพยาบาลเครือข่าย
เทคนิคสุดท้ายที่ต้องศึกษาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันสุขภาพเด็กคือ โรงพยาบาลเครือข่ายที่สามารถรักษาได้ โดยแนะนำให้เลือกซื้อประกันเด็กที่มีโรงพยาบาลเครือข่ายหลากหลายพื้นที่ เพื่อให้สามารถเข้ารับบริการได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ปกป้องลูกรักด้วย PRUHealth Rich Protection
ให้ Prudential ช่วยแบ่งเบาความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ ด้วย PRUHealth Rich Protection ประกันสุขภาพที่ช่วยให้คุณหมดห่วงกับค่ารักษาพยาบาล ด้วยแผนความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก อุบัติเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนแพทย์ทางเลือกและผลประโยชน์พิเศษ ทำได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน – 85 ปี และคุ้มครองสูงสุดถึงอายุ 99 ปี คลายความกังวลเรื่องค่ารักษาเมื่อลูกรักเจ็บป่วย
ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราไม่สามารถดูแลลูกได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะดีกว่าไหมหากมีประกันสุขภาพเด็กมาช่วยรองรับความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราหวังว่าเทคนิคที่นำมาฝากจะช่วยให้เหล่าคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกประกันสุขภาพเด็กให้กับลูกรักได้อย่างคุ้มค่า แต่ถ้าใครยังไม่มีตัวเลือกในใจ ให้ PRUHealth Rich Protection จาก Prudential เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคุณ ให้คุณอุ่นใจ หายห่วงหากลูกน้อยไม่สบาย เพราะสุขภาพของลูกคือสิ่งสำคัญที่สุด