
เปิดเหตุผล ทำไมเราถึงควรทำประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่อายุยังน้อย
โรคร้ายแรง เป็นโรคอันตรายที่ไม่มีใครอยากตรวจพบ เนื่องจากมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว อีกทั้งยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการรักษาด้วย ดังนั้น การเลือกซื้อประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า ประกันโรคร้ายแรงคุ้มครองโรคอะไรบ้าง และมีเรื่องใดบ้างที่เราควรรู้ก่อนทำประกันโรคร้ายแรง
โรคร้ายแรงคืออะไร ?
เมื่อพูดถึงโรคร้ายแรง หลายคนอาจจะคิดถึงโรคมะเร็งเป็นอันดับแรก เพราะเป็นโรคที่รักษาหายยาก และผู้ป่วยในระยะลุกลามจะต้องทนทุกข์ทรมานกับการรักษา ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างแพง แต่ความเป็นจริงแล้ว โรคร้ายแรงมีความหมายที่กว้างกว่านั้น
โรคร้ายแรง คือ โรคที่รักษาได้ยาก มีระยะเวลาการรักษาที่ยาวนาน ต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงในการรักษา รวมไปถึงตัวยารักษาโรคที่มีราคาแพง ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งและเนื้องอก โรคหัวใจ โรคไตวาย
โรคร้ายแรงที่พบมากในไทย
ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ความเครียดจากการทำงาน และอาหารการกินที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคร้ายแรงกันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโรคมะเร็ง ซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี 3 โรคร้ายแรงที่พบบ่อยในไทย ดังต่อไปนี้
โรคมะเร็ง
โรคมะเร็งและเนื้องอก เป็นโรคร้ายแรงที่คนไทยเป็นและเสียชีวิตมากที่สุด โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 140,000 คน และเสียชีวิตปีละประมาณ 80,000 คน ซึ่งจริง ๆ แล้ว โรคมะเร็งและเนื้องอกเป็นโรคที่มีโอกาสรักษาให้หายได้ หากว่าตรวจพบและรักษาในระยะเริ่มต้น แต่หากว่าเจอในระยะลุกลาม โอกาสที่จะรักษาหายก็น้อยตามไปด้วย การตรวจคัดกรองมะเร็งในแต่ละช่วงวัยจึงมีความสำคัญเทียบเท่าการตรวจร่างกายประจำปี
โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 3 ของไทย รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุ ในแต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 21,700 คน และเสียชีวิตประมาณ 19,000 คนต่อปี
กลุ่มโรคนี้ครอบคลุมโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดส่วนปลาย โรคลิ้นหัวใจรั่ว และโรคอื่น ๆ ซึ่งมักมีปัจจัยเสี่ยงจากกรรมพันธุ์และการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีไขมันสูง กินผักและผลไม้น้อย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นโรคอ้วน รวมถึงการเป็นโรคความดันโลหิตสูง
โรคสมองเสื่อม
โรคสมองเสื่อม เป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยในปี 2565 มีผู้สูงอายุที่มีภาวะโรคสมองเสื่อมถึง 770,000 คน คิดเป็น 6% ของผู้สูงอายุทั่วประเทศ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการเข้าสังคม แต่หากตรวจพบและเข้ารับการรักษาในระยะแรก ๆ ก็จะช่วยชะลอการเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำไมต้องทำประกันโรคร้ายแรง ?
บางคนอาจจะคิดว่าประกันโรคร้ายแรงไม่จำเป็น เนื่องจากมีประกันสุขภาพหรือสวัสดิการของออฟฟิศอยู่แล้ว แต่หลายคนลืมคำนึงถึงเรื่องค่ารักษาพยาบาลของโรคร้ายแรงที่มีราคาสูง และต้องใช้เงินจำนวนมากในการดูแลและฟื้นฟูที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ จึงแนะนำให้ทำประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ ที่จ่ายความคุ้มครองเป็นเงินก้อนหากตรวจพบโรคร้ายแรง ช่วยให้มีตัวเลือกในการรักษามากขึ้น ที่สำคัญคือ สามารถนำเงินก้อนนี้ไปดูแลและฟื้นฟูหลังการรักษา รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่ไม่สามารถทำงานได้เต็มร้อยอีกด้วย
การทำประกันโรคร้ายแรงมีข้อดีอะไรบ้าง ?
-
คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรง หรือได้รับผลประโยชน์ความคุ้มครองของประกันโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งหากมีการทำประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ เอาไว้ จะได้รับความคุ้มครองเป็นเงินก้อน ตามเงื่อนไขตามที่ระบุเอาไว้
-
สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัว ไม่กระทบต่อแผนการเงินระยะยาว ไม่ต้องนำเงินเก็บมาดูแลและรักษาตัว
-
ช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โฟกัสการรักษาได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคต หรือต้องขอกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล
-
ราคาไม่แพง เบี้ยฯ เริ่มต้นหลักร้อยต่อปี สามารถจ่ายเพิ่มได้โดยไม่กระทบต่อการเงินของครอบครัว
ประกันโรคร้ายแรงคุ้มครองโรคอะไรบ้าง ?
ประกันโรคร้ายแรงในแต่ละกรมธรรม์ระบุความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะจำนวนโรคที่คุ้มครอง เช่น ประกันพรูโรคร้าย ซูเปอร์คุ้ม จะคุ้มครองมากถึง 63 โรค ทั้งในส่วนของระยะ และระยะรุนแรง แต่โดยทั่วไปแล้ว ประกันโรคร้ายแรงจะคุ้มครองกลุ่มโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
โรคมะเร็งและเนื้องอก ทั้งในระยะเริ่มต้น และระยะลุกลาม
-
โรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ สมองเสื่อม พาร์กินสัน สมองอักเสบ
-
โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด
-
ภาวะอวัยวะล้มเหลว เช่น ไตวายเฉียบพลันและเรื้อรัง ตับวาย
ประกันโรคร้ายแรงเหมาะกับใครบ้าง ?
หลายคนมักจะมองโลกในแง่ดีว่า “เราไม่เป็นอะไร” หรือ “คงไม่ใช่เราที่จะเป็นโรคร้าย” แต่ในความเป็นจริง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ความเครียด อาหารการกิน และวิถีชีวิตในปัจจุบัน ทำให้มีความเสี่ยงโรคร้ายแรงมากยิ่งขึ้น
ประกันโรคร้ายแรงจึงเป็นหลักประกันสุขภาพที่เสริมจากความคุ้มครองหลัก เพิ่มความอุ่นใจด้านการเงินมากขึ้น โดยกลุ่มที่แนะนำให้ทำประกันโรคร้ายแรง มีดังต่อไปนี้
-
วัยทำงาน และวัยเรียน เนื่องจากเป็นวัยที่มีความเครียดสูง ทั้งเรื่องทำงาน เรื่องเรียน ไปจนถึงชีวิตส่วนตัว
-
ผู้ที่ต้องการเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ สร้างความอุ่นใจทางการเงิน
ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงเมื่อไหร่ ?
การปิดประตูความเสี่ยง ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ซึ่งแนะนำให้ซื้อประกันโรคร้ายแรง ด้วยการพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้
-
อายุ แนะนำให้ซื้อตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะจะช่วยให้เบี้ยประกันมีราคาถูก สามารถคุ้มครองได้ในระยะยาว
-
สุขภาพ เช่นเดียวกัน แนะนำให้ซื้อในช่วงที่สุขภาพแข็งแรงมากกว่าช่วงที่เจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ เพราะอาจจะทำให้เบี้ยประกันสูงได้
-
รายได้ สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ โดยไม่กระทบความมั่นคงทางการเงิน แนะนำให้ทำประกันประมาณ 10% ของรายได้ (รวมทุกแผนประกัน)
ก่อนซื้อประกันโรคร้ายแรงต้องตรวจสุขภาพหรือไม่ ?
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท และกรมธรรม์ โดยประกันโรคร้ายของพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ แต่อาจต้องตอบคำถามสุขภาพตามจริง
กรณีไหนที่ประกันโรคร้ายไม่คุ้มครอง ?
ในกรณีดังต่อไปนี้ ประกันโรคร้ายแรงจะไม่คุ้มครอง* หรืออาจจะถูกยกเลิกกรมธรรม์ในบางกรณี
-
ไม่เปิดเผยความจริง หรือแถลงข้อความอันเป็นเท็จ
-
ฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี หรือทำร้ายตัวเองโดยเจตนา
-
ปฏิเสธไม่ยอมรับการรักษา หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
-
มีภาวะติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV Positive) หรือภาวะของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)
-
ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้รับโอนผลประโยชน์ ฆ่าหรือพยายามฆ่าผู้เอาประกัน
-
การเจ็บป่วยที่อยู่ในระยะเวลารอคอย (90 วัน)
*ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อยกเว้นความคุ้มครองได้จากกรมธรรม์
นอกจากประกันสุขภาพแล้ว การเลือกซื้อประกันคุ้มครองโรคร้ายเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดียิ่งขึ้น หากสนใจประกันโรคร้าย เลือกซื้อประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ "พรูโรคร้าย ซูเปอร์คุ้ม" จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต กรอกข้อมูลในช่องสนทนาเพื่อให้ตัวแทนของเราโทรกลับได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง