ซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีให้คุ้มค่ามากที่สุด
ซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีให้คุ้มค่ามากที่สุด
เรียนรู้เทคนิคพื้นฐานในการเลือกซื้อประกันชีวิต ซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีที่จะเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการในการทำประกันชีวิตของคุณมากที่สุด เงื่อนไขเป็นอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกซื้อประกันชีวิตให้คุ้มค่ากับเบี้ยที่ต้องจ่าย
เทคนิคซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีให้คุ้มค่ามากที่สุด
เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งเราก็อาจจะสงสัยว่า ซื้อประกันชีวิตแบบไหนดี ? เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เราก็เริ่มเข้าใจว่าชีวิตนั้นไม่แน่ไม่นอนและมีความเสี่ยงมากมายรอบตัว การมีประกันชีวิตคอยคุ้มครองหรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย แต่จะซื้ออย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ มาแนะนำ
1. ซื้อให้เหมาะสมกับช่วงเวลาของชีวิต
เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับกับช่วงอายุที่ซื้อในตอนนั้นว่าคุณซื้อตอนอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ เงื่อนไขเป็นอย่างไร และทำประกันแบบไหนจึงจะคุ้มค่าและให้ผลประโยชน์ตรงตามความต้องการหรือความจำเป็นมากที่สุด โดยการทำประกันชีวิตตามช่วงอายุนั้นจะเริ่มตั้งแต่
- วัยเริ่มทำงาน พอถึงวัยทำงานมักจะมีสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลรองรับ เช่น ประกันสังคม หรือประกันกลุ่มที่หลาย ๆ บริษัทมีให้ ช่วงวัยนี้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการสะสมทรัพย์ และการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก
-
วัยสร้างครอบครัว ในวัยนี้ควรเลือกซื้อประกันที่เน้นความคุ้มครองตลอดชีวิต เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวหรือคนข้างหลังในวันที่คุณล้มลง
-
วัยสร้างความมั่นคง ช่วงเวลาแห่งการเก็บออมเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคตหรือเมื่อเกษียณ ประกันชีวิตที่เหมาะสมคือประกันชีวิตแบบบำนาญ
-
วัยเกษียณ ช่วงวัยที่เตรียมส่งมอบทรัพย์สินเป็นมรดกให้ลูกหลาน ด้วยการทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่จะมอบผลประโยชน์การคุ้มครองตัวคุณให้กับลูกหลานต่อไป
2. พิจารณาค่าเบี้ยประกัน
อายุและเพศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการคำนวณเบี้ยประกันชีวิตที่คุณจะต้องจ่ายให้กับบริษัทประกัน เริ่มทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะดี เพราะยิ่งอายุมากขึ้นเบี้ยประกันชีวิตทุกชนิดก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และควรเลือกกรมธรรม์ที่คุณจะสามารถส่งค่าเบี้ยไปได้ตลอดอายุสัญญา เพราะการเวนคืนเงินประกันชีวิตจะไม่คุ้มค่ากับค่าเบี้ยที่เสียไปแล้ว ซึ่งการเวนคืนจะมีการคิดคำนวณเงินที่จะคืนตามตารางผลประโยชน์ที่ส่งกรมธรรม์นั้น ๆ ตามช่วงเวลา และส่วนใหญ่มักได้เงินกลับมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3. ตัวแทนขายประกันชีวิตที่ดี
เลือกตัวแทนประกันที่พร้อมอธิบายทุกข้อสงสัยให้กับคุณ และไม่ปกปิดข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่คุณควรต้องรู้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดในทุก ๆ การสนทนาเพื่อทำสัญญาประกันชีวิต ตัวแทนที่ดีเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับประกันชีวิตที่คุ้มค่า เลือกตัวแทนที่สามารถตอบทุกข้อสงสัยของคุณได้อย่างน่าเชื่อถือ และมีใบอนุญาตในการเป็นตัวแทนขายประกัน ก็จะเป็นผลดีต่อตัวคุณมากที่สุด
ทำความเข้าใจประกันชีวิตมีกี่แบบ?
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเลือกซื้อประกันชีวิตแบบไหนดีนั้น คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าประกันชีวิตมีทั้งหมดกี่แบบ ซึ่งประกันชีวิตในปัจจุบันมีอยู่ 4 แบบ ดังนี้
-
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
เป็นการประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น คือมีชั่วระยะเวลาที่จำกัด เช่น 1 ปี, 5 ปี หรือ 10 ปี โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่ทำสัญญากันไว้เท่านั้น ข้อดีคือเบี้ยประกันก็จะไม่สูงมากนัก
-
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
เป็นการประกันชีวิตที่จะให้ความคุ้มครองไปตลอดชีวิต ไม่มีการกำหนดระยะเวลา เป็นสัญญาแบบระยะยาว คือเสียชีวิตเมื่อใด บริษัทประกันจึงจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์เมื่อนั้น
-
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment/Saving Insurance)
เป็นประกันชีวิตที่บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ก็ต่อเมื่อผู้ทำประกันมีชีวิตอยู่ครบระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญานั้น เมื่อครบสัญญาจะมีการคืนทุนประกันพร้อมผลประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มเติม ถือเป็นแผนการออมเงินที่คุ้มค่าอีกรูปแบบหนึ่งที่หลายคนเลือก หรือบริษัทประกันจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ต่อเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา
-
ประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ/แบบบำนาญ (Annuities Insurance)
เป็นประกันชีวิตที่บริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้ทำประกันทุก ๆ เดือน นับตั้งแต่ผู้ทำประกันเกษียณอายุ หรือเมื่อมีอายุครบ 55 ปีหรือ 60 ปีเป็นต้นไป โดยระยะเวลาในการจ่ายก็จะขึ้นอยู่กับสัญญาที่ได้ทำไป
ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบไหนดี ต้องคำนึงถึงเรื่องพื้นฐานอย่างเพศ อายุ และค่าเบี้ยประกันด้วย และตัวแปรสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือตัวแทนขายประกัน อย่าลืมทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบของประกันให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อที่คุณจะได้เลือกรูปแบบที่ตอบโจทย์กับความต้องการ รวมถึงให้ความคุ้มค่ากับคุณมากที่สุดด้วย